การสังเคราะห์องค์ความรู้จากงานวิจัย เรื่อง: ทัศนคติของนักศึกษาพยาบาลต่อการจัดการเรียนการสอนแบบ Active learning ต่อผล สัมฤทธิ์การเรียนรู้ตามมาตรฐานคุณวุฒิระดับอุดมศึกษา

การสังเคราะห์องค์ความรู้จากงานวิจัย เรื่อง: ทัศนคติของนักศึกษาพยาบาลต่อการจัดการเรียนการสอนแบบ Active learning ต่อผล สัมฤทธิ์การเรียนรู้ตามมาตรฐานคุณวุฒิระดับอุดมศึกษา

การสังเคราะห์องค์ความรู้จากงานวิจัย

เรื่อง: ทัศนคติของนักศึกษาพยาบาลต่อการจัดการเรียนการสอนแบบ Active learning  ต่อผล สัมฤทธิ์การเรียนรู้ตามมาตรฐานคุณวุฒิระดับอุดมศึกษา 

วันที่  6  พฤษภาคม  พ.ศ. 2557

เวลา 13.00-16.00 น.

ณ  ห้องประชุมเสาวรส

          โดย  นางสาวอุทุมพร  ดุลยเกษม

  ผู้ร่วมสังเคราะห์องค์ความรู้

นางสาวอุทุมพร            ดุลยเกษม

นางสาวบุญธิดา           เทือกสุบรรณ

นางสาวเบญจมาศ       จันทร์อุดม

นางสาววิชชุตา            สนธิเมือง

นางชุติมา                    รักษ์บางแหลม

นางสาวดาลิมา            สำแดงสาร

สรุปองค์ความรู้ที่ได้จากการสังเคราะห์

ชื่องานวิจัย  :  ทัศนคติของนักศึกษาพยาบาลต่อการจัดการเรียนการสอนแบบ Active learning ต่อผล สัมฤทธิ์การเรียนรู้ตามมาตรฐานคุณวุฒิระดับอุดมศึกษา

องค์ความรู้ที่ได้จากงานวิจัย

การจัดการเรียนการสอนแบบ Active learning ได้แก่ การมอบหมายงาน (Assignment Technique) การใช้กรณีศึกษา (Case Study) การประชุมกลุ่มย่อย ( Small Group Discussion)  การทำผังความคิดรวบยอด  (Concept Mapping) และการสาธิตและการสาธิตย้อนกลับ (Demonstration & Return Demonstration) สามารถพัฒนานักศึกษาพยาบาลให้เกิดการเรียนรู้ตามกรอบมาตรฐานคุณวุฒิระดับปริญญาตรีในด้านคุณธรรม

จริธรรม ด้านทักษะความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลและความรับผิดชอบ ด้านความรู้  ด้านทักษะทางปัญญา ด้านทักษะ การวิเคราะห์เชิงตัวเลข การสื่อสารและการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ ตามลำดับ นอกจากนี้การทำ Reflection ของนักศึกษาพบว่าการเรียนการสอนแบบมอบหมายงานทำให้เกิดผลลัพธ์ทางด้านความรู้และด้านทักษะทางปัญญาน้อย

กว่าการเรียนการสอนแบบสาธิตและสาธิตย้อนกลับและนักศึกษายังแสดงความรู้สึกว่าการเรียนแบบ Active Learning ทำให้มีความรับผิดชอบในการเตรียมตัวก่อนเข้าชั้นเรียนมากขึ้นเพราะมิฉะนั้น        จะไม่มีความรู้ที่จะนำสามารถนำมาอภิปรายกับเพื่อนในกลุ่มได้ และช่วยในการรู้จักบริหารเวลาให้เกิดประโยชน์ รวมทั้งทำให้ได้ฝึกแก้ปัญหาให้แก่ผู้รับบริการก่อน ขึ้นฝึกงาน  ซึ่งจะเป็นผลดีเวลาไปฝึกปฏิบัติงานจริงๆว่าเคยผ่านการฝึกแก้ปัญหาแบบนี้มาก่อนช่วยลดความตื่นเต้นลงได้

นำไปใช้ประโยชน์ในด้าน

ด้านการเรียนการสอน

สามารถใช้เป็นวิธีการเรียนการสอนในรายวิชาอื่นๆได้ซึ่งทำให้ผู้สอนและผู้เรียนมีความพึงพอ   ใจโดยผู้สอนจะต้องมีเทคนิคเตรียมความรู้ในเรื่องที่สอนรวมทั้งต้องทราบวัตถุประสงค์ในการสอนใน เรื่องนั้นๆซึ่งจะ มีจุด weak คือหากผู้สอนไม่มีความถนัดในเรื่องที่สอนจะไม่สามารถตั้งคำถามผู้เรียน เพื่อให้มีการกระตุ้นการคิด  การเชื่อมโยง และการสรุปในเนื้อหานั้นๆได้

 

ด้านวิชาชีพ

-ฝึกฝนการคิดอยู่ตลอดเวลา การแก้ปัญหาก่อนขึ้นฝึกปฏิบัติบนหอผู้ป่วยซึ่งทำให้สามารถนึกภาพออกว่า จะเลือกใช้วิธีการแก้ไขปัญหาอย่างไรและต้องให้การช่วยเหลืออย่างไรและตัดสินใจเชิงวิชาชีพได้ (สามารถ เชื่อมโยงได้)

-เป็นการหล่อหลวมบุคคลที่จะพัฒนาเป็นพยาบาลที่มีคุณภาพในด้านทักษะความสัมพันธ์ระหว่าง บุคคล ซึ่งพยาบาลจำเป็นต้องมีทักษะด้านนี้

ด้านบริหาร

          -เป็นรูปแบบวิธีการสอนที่ผู้ประสานรายวิชาอื่นๆสามารถนำไปใช้ได้

-เป็นข้อมูลที่ใช้ประกอบเพื่อการเตรียมสิ่งสนับสนุนในการเรียนการสอน เช่นห้อง Lab

-เป็นวิธีการที่ผู้สอนรายวิชาอื่นๆนำไปพิจารณาว่าจะใช้บทเรียนใดในรายวิชาสอนด้วยวิธี Active learning

-หากจะใช้วิธีการเรียนการสอนวิธีนี้ควรมีการเตรียมผู้สอนก่อน เพื่อให้เกิดความเชี่ยวชาญและสามารถให้ คำชี้แนะผู้เรียนได้

ด้านชุมชน

          เป็นวิธีการที่นำไปให้คำแนะนำแก่ชุมชนเมื่อมีการจัดทำโครงการที่เป็นประโยชน์แก่ชุมชนในภาพรวม

โดยการหาที่มาของปัญหาต่างๆก่อนเริ่มโครงการ อาจใช้วิธีการหลายๆวิธี เช่น small group, สาธิต, concept map เป็นต้น

 

  (534)

การสังเคราะห์องค์ความรู้จากงานวิจัย เรื่อง: คุณภาพของบัญฑิตตามกรอบคุณวุฒิมาตรฐานการศึกษาของผู้สำเร็จการศึกษาประจำปีการศึกษา 2554 วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี นครศรีธรรมราช

การสังเคราะห์องค์ความรู้จากงานวิจัย เรื่อง: คุณภาพของบัญฑิตตามกรอบคุณวุฒิมาตรฐานการศึกษาของผู้สำเร็จการศึกษาประจำปีการศึกษา 2554 วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี นครศรีธรรมราช

การสังเคราะห์องค์ความรู้จากงานวิจัย

เรื่อง: คุณภาพของบัญฑิตตามกรอบคุณวุฒิมาตรฐานการศึกษาของผู้สำเร็จการศึกษาประจำปีการศึกษา 2554 วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี นครศรีธรรมราช

วันที่  5  มิถุนายน  พ.ศ. 2557

เวลา 13.00  น.

ณ  ห้องงานวิจัย

          โดย  นางสาววิลาสินี  แผ้วชนะ

  ผู้ร่วมสังเคราะห์องค์ความรู้

นางสาววิลาสินี  แผ้วชนะ

นางสาวบุญธิดา  เทือกสุบรรณ

นางจรรยา       ศรีมีชัย

นางนิศารัตน์     นรสิงห์

นางสาวนภาวรรณ  วิริยะศิริกุล

นางสาวจันทิมา            ช่วยชุม

นางรัถยานภิศ    พละศึก

สรุปองค์ความรู้ที่ได้จากการสังเคราะห์

ชื่องานวิจัย: คุณภาพของบัณฑิตตามกรอบคุณวุฒิมาตรฐานการศึกษาของผู้สำเร็จการศึกษาประจำปีการศึกษา

2554 วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี นครศรีธรรมราช

องค์ความรู้ที่ได้จากงานวิจัย

          คุณภาพของบัณฑิตตามกรอบคุณวุฒิมาตรฐานการศึกษาระดับปริญญาตรี สาขาพยาบาลศาสตร์ ของ บัณฑิตที่สำเร็จการศึกษาในปีการศึกษา 2554 วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี นครศรีธรรมราช ตามการรับรู้ผู้ใช้ บัณฑิต ภาพรวมทุกด้านอยู่ในระดับมาก

1. ด้านคุณธรรม จริยธรรม : ประกอบด้วยด้าน

1) ความซื่อสัตย์

2) ความรู้ความเข้าใจในจรรยาบรรณ วิชาชีพ

3) การปฏิบัติตามจรรยาบรรณวิชาชีพ

4) ความรู้ความเข้าใจในหลักศาสนา หลักจริยธรรมที่มี ความสำคัญต่อการปฏิบัติการพยาบาล

5) ความมีระเบียบวินัย

6) การแยกแยะความถูกต้องความดีและความชั่วได้

2. ด้านความรู้ความสามารถทางวิชาการ: ประกอบด้วยด้าน

1) ความรู้ความเข้าใจในสาระสำคัญของ วิทยาศาสตร์สุขภาพ

2) ความรู้ความเข้าใจในสาระสำคัญของมนุษศาสตร์ สังคมศาสตร์ กฏหมาย การปกครอง ระบอบประชาธิปไตย

3) ความรู้ความเข้าใจในสาระสำคัญของศาสตร์ทางวิชาชีพ

4)ความรู้ความเข้าใจในสาระ สำคัญของระบบสุขภาพและปัจจัยที่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงของระบบสุขภาพ

5)ความรู้ความเข้าใจในสาระสำคัญของกระบวนการแสวงหาความรู้

6) ความรู้ความเข้าใจในสาระสำคัญของกระบวนการพยาบาล

3. ด้านทักษะทางปัญญา : ประกอบด้วยด้าน

1) พัฒนาตนเองให้มีความสามารถเพิ่มมากขึ้น

2)ตระหนักรู้ในศักยภาพและสิ่งที่เป็นจุดอ่อนของตน

3) การสืบค้นและวิเคราะห์ข้อมูลจากแหล่งข้อมูลที่หลากหลาย

4. ด้านความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลและความรับผิดชอบ: ประกอบด้วยด้าน

1) การมีปฏิสัมพันธ์อย่าง สร้างสรรค์กับผู้ร่วมงาน

2) การมีปฏิสัมพันธ์อย่างสร้างสรรค์กับผู้บังคับบัญชา

3) การทำงานเป็นทีมในบทบาท สมาชิกทีม

4) การมีปฏิสัมพันธ์อย่างสร้างสรรค์กับผู้ใช้บริการ

5) ความสามารถปรับตัวเชิงวิชาชีพความ รับผิดชอบต่อหน้าที่

5. ด้านทักษะการวิเคราะห์เชิงตัวเลข การสื่อสารและการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ: ประกอบด้วยด้าน

1) การใช้โปรแกรม คอมพิวเตอร์พื้นฐานที่จำเป็น

2) การใช้ภาษาไทยในการพูดการฟังการอ่าน

3) การเขียน ภาษาไทย

4) วิเคราะห์และถ่ายทอดข้อมูลข่าวสารแก่ผู้อื่นได้อย่างเข้าใจ

6. ด้านทักษะการปฏิบัติทางวิชาชีพ: ประกอบด้วยด้าน

1) ปฏิบัติการพยาบาลด้วยความเมตตา กรุณา เอื้อาทรยึดมั่นในคุณธรรมจริยธรรม

2) ปฏิบัติการพยาบาลโดยคำนึงถึงกฏหมายและสิทธิของผู้ป่วย

3) ปฏิบัติการ พยาบาลอย่างเป็นองค์รวม

4) ใช้กระบวนการพยาบาลในการปฏิบัติการพยาบาล

5) ใช้หลักฐานเชิงประจักษ์ ในการปฏิบัติการพยาบาล

นำไปใช้ประโยชน์ในด้าน

ด้านการเรียนการสอน

          ควรมีการพัฒนาการจัดการเรียนรู้ในประเด็น

-ความรู้และความเข้าใจในกระบวนการวิจัย

-ความรู้ความเข้าใจในกระบวนการบริหารและการจัดการองค์กร

-ความรู้ความเข้าใจในวัฒนธรรมที่มีผลกระทบต่อภาวะสุขภาพ

-การอ่านวารสารและตำราภาษาอังกฤษอย่างเข้าใจ ควรมีการพัฒนาให้นักศึกษามีการเขียนอ่านตำรา ภาษาอังกฤษ โดยให้ผู้สอนแต่ละรายวิชามอบหมายงานให้นักศึกษาค้นหาข้อมูลเป็นภาษาอังกฤษ

-สามารถบริหารทีมงานการพยาบาล โดยการสอดแทรกการสอนที่มีการบริหารทีม หรือการทำกิจกรรม กลุ่ม เช่นนักศึกษาชั้นปีที่ 1 สอนให้รู้จักทีม สอนภาวะผู้นำในกิจกรรมในและนอกหลักสูตร หรือกิจกรรมของ ครอบครัวเดียวกัน  หรือการเรียนการสอนในรายวิชาการพัฒนากระบวนการคิด ทำให้การการสร้างสรรค์ ภาวะ ผู้นำ  ในส่วนของนักศึกษาชั้นปีที่ 1 ควรจัดประสบการณ์ในรายวิชาที่สามารถเกี่ยวกับภาวะผู้นำ

ด้านวิชาชีพ

          วิทยาลัยพยาบาลควรมีการเตรียมนักศึกษาก่อนสำเร็จการศึกษาในหัวช้อ ดังนี้

-สิทธิผู้ป่วยโดยการสอดแทรกในส่วนของข้อมูลในการปฐมนิเทศในขณะรับใหม่ของผู้ป่วยและผู้ดูแล ที่เข้ารับการรักษาในหอผู้ป่วย

-ด้านการวิจัย  โดยพูดเกี่ยวกับกระบวนการวิจัย ประมาณ 1-2 ชั่วโมง

ด้านบริหาร

การพัฒนาภาษาอังกฤษ

          -เสนอฝ่ายบริหารของวิทยาลัยพยาบาลให้จัดสิ่งสนับสนุนที่เอื้อต่อการเรียนรู้  เช่นห้อง Home theater   และให้เวลา เพื่อใช้ในการดูภาพยนต์และการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ

-พูดคุยกับนักศึกษา เพื่อหาแนวทางในการพํมนาภาษาอังกฤษอย่างเป็นรูปธรรม

ด้านชุมชน

ให้นักศึกษาพยาบาลชั้นปีที่ 4 ฝึกปฏิบัติในชุมชนเพิ่มขึ้น เพื่อให้เข้าใจชุมชน เรียนรู้วัฒนธรรมของชุมชน

รวมทั้งเห็นคุณค่า ความสำคัญของวัฒนธรรม ทำให้ชุมชนเกิดสุขภาวะที่เป็นผลจากการสร้างให้นักศึกษาเข้าใจคน เข้าในสุขภาพ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

  (351)

การสังเคราะห์องค์ความรู้จากงานวิจัย เรื่อง: ความสัมพันธ์ระหว่างความสามารถในการเผชิญปัญหาและการฟันฝ่าอุปสรรค การรับรู้ความสามารถแห่งตน และความฉลาดทางอารมณ์ของนักศึกษาพยาบาลศาสตร์ วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี นครศรีธรรมราช

การสังเคราะห์องค์ความรู้จากงานวิจัย เรื่อง: ความสัมพันธ์ระหว่างความสามารถในการเผชิญปัญหาและการฟันฝ่าอุปสรรค การรับรู้ความสามารถแห่งตน และความฉลาดทางอารมณ์ของนักศึกษาพยาบาลศาสตร์ วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี นครศรีธรรมราช

การสังเคราะห์องค์ความรู้จากงานวิจัย

เรื่อง: ความสัมพันธ์ระหว่างความสามารถในการเผชิญปัญหาและการฟันฝ่าอุปสรรค การรับรู้ความสามารถแห่งตน และความฉลาดทางอารมณ์ของนักศึกษาพยาบาลศาสตร์  วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี นครศรีธรรมราช 

วันที่  2  มิถุนายน  พ.ศ. 2557

เวลา 13.00-16.00 น.

ณ  ห้องงานวิจัย

          โดย  นางสาวภาวดี  เหมทานนท์

  ผู้ร่วมสังเคราะห์องค์ความรู้

นางสาวภาวดี    เหมทานนท์

นางสาวบุญธิดา  เทือกสุบรรณ

นางสาวขจิต      บุญประดิษฐ์

นางสาวดาลิมา   สำแดงสาร

นางวันดี          แก้วแสงอ่อน

นางจิตฤดี        รอดการทุกข์

 

สรุปองค์ความรู้ที่ได้จากการสังเคราะห์

ชื่องานวิจัย : ความสัมพันธ์ระหว่างความฉลาดทางอารมณ์ การรับรู้ความสามารถแห่งตน กับความสามารถในการเผชิญและฝ่าฟันอุปสรรคของนักศึกษาพยาบาลวิทยาลัยพยาบาลบรมราช   ชนนี นครศรีธรรมราช

องค์ความรู้ที่ได้จากงานวิจัย

          ความฉลาดทางอารมณ์ การรับรู้ความสามารถแห่งตนและความสามารถในการเผชิญและฝ่าฟันอุปสรรค ของนักศึกษาพยาบาลสามารถพัฒนาในเกิดขึ้นในระดับสูงได้ ดังนั้นผู้สอนหรือวิทยาลัยพยาบาลจึงควรจัด การส่งเสริมโดยจัดโครงการหรือกิจกรรมในรูปแบบต่างๆ ที่เหมาะสมกับนักศึกษา

นำไปใช้ประโยชน์ในด้าน

ด้านการเรียนการสอน

          1. เป็นข้อมูลในการเรียนการสอน โดยที่นักศึกษาที่ศึกษาในระดับชั้นปีที่สูงกว่าจะมีความฉลาดทาง อารมณ์  การรับรู้ความสามารถแห่งตนและความสามารถในการเผชิญและฝ่าฟันอุปสรรคสูงกว่านักศึกษา ที่ศึกษาในระดับชั้นปีที่ต่ำกว่า

2. เป็นข้อมูลในการจัดการเรียนการสอนที่ส่งเสริมผู้เรียนมีความมั่นใจในตนเอง และรับรู้ความสามารถ ของตนเองเพิ่มขึ้น

3. เป็นข้อมูลแก่ผู้สอน ในการสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยต่อการพัฒนาความสามารถและทักษะ

ความฉลาดทางอารมณ์ การรับรู้ความสามารถแห่งตนและความสามารถในการเผชิญและฝ่าฟันอุปสรรคของ นักศึกษาอย่างเต็มที่

ด้านวิชาชีพ

          เมื่อพยาบาลมีความฉลาดทางอารมณ์ การรับรู้ความสามารถแห่งตนและความสามารถในการ เผชิญและฝ่าฟันอุปสรรคในระดับสูงสามารถลดอัตราการลาออกจากวิชาชีพพยาบาลมีความสุขในการทำงานรวมทั้งมีความภาคภูมิใจในวิชาชีพ

ด้านบริหาร

  1. เป็นข้อมูลเสนอเชิงนโยบายแก่วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนีโดยใช้บรรจุในการปฐมนิเทศ

ในเรื่องความฉลาดทางอารมณ์  การรับรู้ความสามารถแห่งตนและความสามารถในการเผชิญและฝ่าฟันอุปสรรค

ให้กับนักศึกษาใหม่

  1. เป็นข้อมูลให้ฝ่ายบริหารจัดการอบรมแก่นักศึกษาพยาบาลก่อนสำเร็จการศึกษา เพื่อให้นักศึกษา สามารถปฏิบัติงานได้อย่างมีความสุข

ด้านชุมชน

          ชุมชนจะมีความสุขเมื่อได้รับการให้บริการจากนักศึกษาที่มีความฉลาดทางอารมณ์ การรับรู้ความสามารถ แห่งตน และความสามารถในการเผชิญและฝ่าฟันอุปสรรคในระดับสูง

  (370)

การสังเคราะห์องค์ความรู้จากงานวิจัย เรื่อง: ความพร้อมของโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลในการสนับสนุนการดูแลผู้สูงอายุ

การสังเคราะห์องค์ความรู้จากงานวิจัย เรื่อง: ความพร้อมของโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลในการสนับสนุนการดูแลผู้สูงอายุ

การสังเคราะห์องค์ความรู้จากงานวิจัย

เรื่อง: ความพร้อมของโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลในการสนับสนุนการดูแลผู้สูงอายุ

วันที่  2  มิถุนายน  พ.ศ. 2557

เวลา 13.00-16.00 น.

ณ  ห้องกลุ่มงานวิจัย

   โดย  นางวันดี  แก้วแสงอ่อน

  ผู้ร่วมสังเคราะห์องค์ความรู้

นางวันดี       แก้วแสงอ่อน

นางจิตฤดี     รอดการทุกข์

นางสาวดาลิมา   สำแดงสาร

สรุปองค์ความรู้ที่ได้จากการสังเคราะห์

ชื่องานวิจัย : ความพร้อมของโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลในการสนับสนุนการดูแลผู้สูงอายุ

องค์ความรู้ที่ได้จากงานวิจัย

โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลควรจัดให้มีการสนับสนุนการดูแลผู้สูงอายุดังนี้

1. การเผยแพร่ความรู้ข่าวสารเกี่ยวกับการดูแลผู้สูงอายุ

2. จัดโปรแกรมฟื้นฟูสมรรถภาพผู้สูงอายุที่มีปัญหาการเคลื่อนไหวและผู้สูงอายุที่ต้องพึ่งพา

3. จัดทีมบริการการดูแลผุ้สูงอายุที่ป่วยด้วยโรคเรื้อรัง

4. ประสานความร่วมมือกับหน่วยงานอื่นๆในการดำเนินงานด้านการพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุ

5. จัดสถานที่ให้คำปรึกษาด้านการดูแลสุขภาพ

6. การใช้ยาสามัญประจำบ้าน

นำไปใช้ประโยชน์ในด้าน

ด้านการเรียนการสอน

          เป็นข้อมูลในการเลือกความพร้อมของโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลที่ใช้เป็นสถานที่การเรียนการสอน

ของรายวิชาที่ลงฝึกปฏิบัติในชุมชน ซึ่งควรจะต้องมีความพร้อมในด้านการสนับสนุนด้านการรักษาพยาบาล และ ด้านการมีส่วนร่วมของชุมชน

ด้านวิชาชีพ

          เป็นข้อมูลให้กับบุคลากรที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ พยาบาลโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล อาสาสมัคร สาธารณสุขประจำหมู่บ้าน และวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนีนครศรีธรรมราช ประสานความร่วมมือในการ ส่งเสริมและสนับสนุนการดูแลผู้สูงอายุในด้านการเผยแพร่ความรู้ข่าวสาร  จัดโปรแกรมฟื้นฟูสมรรถภาพผู้สูงอายุ ที่มีปัญหาการเคลื่อนไหว จัดทีมบริการการดูแลผู้สูงอายุที่ป่วยด้วยโรคเรื้อรัง ประสานความร่วมมือกับหน่วยงาน อื่นๆในการดำเนินงานด้านการพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุจัดสถานที่ให้คำปรึกษาด้านการดูแลสุขภาพ  การใช้ยาสามัญประจำบ้าน

ด้านบริหาร

          เป็นข้อมูลเสนอแนะเชิงนโยบายแก่องค์การบริหารส่วนตำบลที่ให้ความรับผิดชอบดูแลโรงพยาบาล

ส่งเสริมสุขภาพตำบล เพื่อนำไปใช้ในการพัฒนาความพร้อมในการวางแผน  จัดสรรงบประมาณแก่โรงพยาบาล

ส่งเสริมสุขภาพตำบลเพื่อใช้ในการสนับสนุนการดูแลผู้สูงอายุ

ด้านชุมชน

เป็นข้อมูลในการพัฒนา ปรับปรุงความพร้อมสำหรับโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลในการดูแลสุขภาพ ผู้สุงอายุ เช่นการจัดดปรแกรมการฟื้นฟูสมรรถภาพ  การให้ข้อมูลข่าวสาร  จัดทีมบริการแก่ผู้สูงอายุ เป็นต้น

 

 

  (308)

การสังเคราะห์องค์ความรู้จากงานวิจัย เรื่อง: การออกแบบและผลสัมฤทธิ์ของการจัดการเรียนการสอน ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ

การสังเคราะห์องค์ความรู้จากงานวิจัย เรื่อง: การออกแบบและผลสัมฤทธิ์ของการจัดการเรียนการสอน ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ

การสังเคราะห์องค์ความรู้จากงานวิจัย

เรื่อง: การออกแบบและผลสัมฤทธิ์ของการจัดการเรียนการสอน

ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ 

วันที่ 26  พฤษภาคม  พ.ศ. 2557 

          โดย  ดร.รัถยานภิศ                 พละศึก

นางสาวอุทุมพร            ดุลยเกษม

นางชุติมา                  รักษ์บางแหลม

ดร.ยุพาวรรณ              ทองตะนุนาม

ผู้ร่วมสังเคราะห์องค์ความรู้

ดร.รัถยานภิศ              พละศึก

นางธมลวรรณ              แก้วกระจก

นางเบญจวรรณ            ถนอมชยธวัช

นางสาวบุญธิดา            เทือกสุบรรณ

นางสาวเบญจมาศ         จันทร์อุดม

          สรุปองค์ความรู้ที่ได้จากการสังเคราะห์

1. องค์ความรู้ใหม่ที่ได้จากงานวิจัย 

การเรียนการสอนในศตวรรษ  ไม่เน้นการเรียนการสอนโดยครูเป็นผู้บรรยาย  ผู้เรียนเป็นเพียงผู้ฟังเท่านั้น  แต่ใช้การเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ  และใช้กิจกรรมการเรียนการสอนที่หลากหลาย  มีการเลือกใช้วิธีการสอนที่เหมาะกับผู้เรียนแต่ละกลุ่ม  โดยผู้สอนมีการวิเคราะห์ผู้เรียนรายบุคคล เพื่อการเลือกใช้เทคนิคและวิธีการสอนที่เหมาะสม  ซึ่งวิธีการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ  ที่มีการใช้ในเครือข่ายวิทยาลัยพยาบาลและวิทยาลัยการสาธารณสุขภาคใต้และ โรงเรียนวิทยาศาสตร์สุขภาพ  ราชาวลี  เมืองบันดุง ประเทศอินโดนีเซีย (Rajawali  School  Health  Science  Bandung, Indonesia)      ประกอบด้วย

  1. Inguiry-based  learning  (การสอนแบบสืบสวน)
  2. Authentic  learning (การศึกษาสภาพจริง)
  3. Situation  analysis  (การวิเคราะห์สถานการณ์จำลองหรือการวิเคราะห์ภาพยนตร์)
  4. Problem  -based  learning (การเรียนโดยใช้ปัญหาเป็นฐาน)
  5. Small group  learning  (การเรียนรู้กลุ่มย่อย)
  6. E- learning (การเรียนโดยใช้สื่อออนไลน์)
  7. Jigsaw  technique  (การเรียนโดยใช้เทคนิคจิกซอร์)
  8. Role  play (การเรียนโดยใช้บทบาทสมมติ)
  9. Make  an  individual  (การเรียนโดยผู้เรียนกำหนดเป้าหมายการเรียนรู้  และความคาดหวังเชิงวิชาการและเชิงวิจัยด้วยตนเอง)
  10. Active learning  (……..)

การออกแบบการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ  ผู้สอนในวิทยาลัยพยาบาลและ

วิทยาลัยการสาธารณสุข ได้ใช้ทีมผู้สอนในการจัดการเรียนการสอนให้น่าสนใจ   มีการดึงดูดความสนใจ  และเกิดประสิทธิภาพอย่างแท้จริง  โดยทีมผู้สอนต้องมีความเชี่ยวชาญในเนื้อหา  มีความเชี่ยวชาญในการใช้กิจกรรมการเรียนการสอนที่ดึงดูดความสนใจของผู้เรียน  และมีความสามารถในการสรุปข้อความรู้ให้ผู้เรียนอย่างครอบคลุม  และการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญผู้สอนต้องส่งเสริมให้ผู้เรียนพัฒนาทักษะการคิดอย่างเป็นระบบ  ทำเป็น  และวิเคราะห์ได้  และกระตุ้นผู้เรียนให้กำหนดเป้าหมายการเรียนรู้ด้วยตนเองตามที่กำหนดอย่างครอบคลุม  ถ้าผู้เรียนเป้าหมายการเรียนรู้ได้ไม่ครอบคลุมครูต้องทำหน้าที่เป็น Facilitator  ช่วยให้ผู้เรียนได้กำหนดเป้าหมาย    การเรียนรู้ให้ครอบคลุม   และบริหารเวลาที่ใช้ในการเรียนรู้ตามการมอบหมายงานในห้องเรียนอย่างสมบูรณ์  ภายหลังการเรียนการสอน  ให้ผู้เรียนได้สะท้อนความรู้สึก  ทัศนคติ  และประสบการณ์การเรียนรู้ที่ได้รับจากการใช้เทคนิคการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญของผู้สอน  ซึ่งจากการเปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้สะท้อนคิด ได้ข้อสรุปว่าการเรียนการสอนโดยใช้ผู้สอนเป็นทีมและใช้การเรียนการสอนแบบกลุ่มย่อยดีกว่าการเรียนการสอนโดยผู้สอนคนเดียว  เนื่องจากการเรียนการสอน        ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญที่มีประสิทธิภาพ  มีการจัดการจัดสิ่งแวดล้อมที่ดี   ใช้เทคโนโลยี  และอุปกรณ์  สื่อการเรียนการสอน ที่เหมาะสม  ใช้สถานการณ์ตัวอย่างที่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ในการเรียนรู้  ส่งเสริมให้ผู้เรียน  1) กำหนดเป้าหมายการเรียนรู้ด้วยตนเองอย่างครอบคลุม  2) ผู้เรียนวางแผนการจัดการเรียนรู้ตามลำดับความยากง่าย  3) ผู้เรียนสามารถบริหารเวลาได้เหมาะสม ทำงานที่ได้รับมอบหมายได้ทันตามเวลาในชั่วโมงเรียน 4) มีแรงบันดาลใจในการเรียนรู้ด้วยตนเองได้สำเร็จจากการกระตุ้น (Motivate) ของผู้สอน 5) สามารถสะท้อนคิดเกี่ยวกับความรู้สึก  และทัศนคติ                   และประสบการณ์ที่ได้รับจากการเรียนแบบเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ  ภายหลังการเรียนได้

หน้าที่ของผู้สอนที่มีประสิทธิภาพ

1) ผู้สอนที่มีประสบการณ์มากกว่าต้องเป็น Staff  ให้กับทีมผู้สอนน้องๆ  ได้เรียนรู้สาระสำคัญ  รวมถึงการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ  พร้อมๆกับผู้เรียน

2) ผู้สอนที่มีประสบการณ์มากกว่าต้อง KM กับทีมผู้สอนน้องๆ  เพื่อเตรียมความพร้อมให้ผู้สอนมีความรู้มากกว่าผู้เรียน

3) ผู้สอนต้องเป็น Model ที่ดี ถ้าไม่รู้ในบางเรื่อง  จะต้องไปศึกษาเพิ่มเติมพร้อมผู้เรียน  และอธิบายเพิ่มเติมในครั้งต่อไปที่เจอกัน

4) ผู้สอนต้องเชื่อมโยงความรู้ที่ผู้เรียนศึกษาได้อย่างครอบคลุม  และต้องรู้จักผู้เรียนรายบุคคล  รู้ถึง Style การเรียนที่แตกต่างกัน  เพื่อให้ผู้เรียนมีกำลังใจที่จะเรียนรู้

 

2. การนำองค์ความรู้ที่ได้จากงานวิจัยไปใช้ประโยชน์

1) ด้านการเรียนการสอน  ใช้เป็นแนวทางในการพัฒนาอาจารย์ผู้สอน ให้มีความสามารถ  และมีทักษะในการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ  และพัฒนากระบวนการวัดและประเมินผลที่หลากหลาย  สามารถประเมินผลการพัฒนาการเรียนรู้ได้ครอบคลุมผลลัพธ์การเรียนรู้ที่กำหนด

2) ด้านชุมชน  ใช้เป็นแนวทางในการพัฒนาพฤติกรรมสุขภาพของชาวบ้าน  โดยใช้วิธีการสอนและให้คำแนะนำที่ใช้  Community  base  learning  หรือ Population  base    learning

3)  ด้านวิชาชีพ   สร้างความเชี่ยวชาญให้อาจารย์ผู้สอนทั้งความเชี่ยวชาญหลัก  และความเชี่ยวชาญรอง  เพื่อสร้าง  Team  learning  ให้เหมาะสม

 

4)  ด้านการบริหาร 

กำหนด Road map  ในการพัฒนาศักยภาพอาจารย์ผู้สอนให้มีความเชี่ยวชาญ

ครอบคลุมทุกด้าน  และพัฒนาผู้สอนครอบคลุม  Competency  ตามที่วิทยาลัยกำหนด

มีการวางแผนและกำหนดงบประมาณสนับสนุนในการพัฒนา Scenario   ให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์การเรียนรู้  และวางแผนกำหนดกลุ่มวิชาที่รับผิดชอบในการจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ  กำหนดรายวิชา  หัวข้อ  กลุ่มผู้เรียนที่ชัดเจน  ไม่ให้เกิดความซ้ำซ้อนทำให้ผู้เรียนเกิดความเหนื่อยล้า  ไม่สนใจการเรียนแบบเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ

มีการวางแผนและจัดเตรียมทรัพยากร  อุปกรณ์  สื่อ  (Scenario  , CAI)  ที่เหมาะสมและเพียงพอก่อนการดำเนินการจัดการเรียนการสอน

 

  (428)