ผู้บันทึก : นายสิงห์ กาญจนอารี | |
กลุ่มงาน : งานเทคโนโลยีสารสนเทศและประชาสัมพันธ์ | |
ฝ่าย : ฝ่ายบริหาร | |
ประเภทการปฎิบัติงาน : ประชุม | |
เมื่อวันที่ : 14 ธ.ค. 2554 ถึงวันที่ : 14 ธ.ค. 2554 | |
หน่วยงาน/สถาบันที่จัด : คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ | |
จังหวัด : สงขลา | |
เรื่อง/หลักสูตร : กิจกรรมวันแลกเปลี่ยนเรียนรู้ เล่าสู่กันฟัง หัวข้อ จิตวิญญาณในงานบริการ(SHA) | |
วันที่บันทึก 10 ม.ค. 2555 | |
|
|
รายละเอียด | |
การ นำแนวคิดมิติจิตใจผสมผสานในระบบบริการคุณภาพของสถาบันรับรองคุณภาพสถาน พยาบาล (องค์การมหาชน) มีการพัฒนาอย่างเป็นระบบในช่วงระยะเวลา ๕-๖ ปี ที่ผ่านมา เป็นมาตรฐานที่ครอบคลุมถึงความหมายของทั้งสองด้าน คือทั้งตัวบุคลากรผู้ให้บริการและตัวผู้ป่วยที่มารับบริการ และที่สำคัญคือ เชื่อมโยงไปจนถึงชุมชน วัฒนธรรม ความเชื่อต่างๆ หรือที่เรียกกันว่า “บริบท” โดยใช้คุณค่าสำคัญ ๓C เป็นแนวคิดสำคัญในการนำมาตรฐานลงสู่การปฏิบัติงาน อันได้แก่ context ( บริบท ) core value ( ค่านิยมอุดมการณ์ )หรือความเชื่อ ) และ criteria ( มาตรฐาน ) ในปี พ.ศ. ๒๕๕๒ สถาบันรับรองคุณภาพสถานพยาบาลจึงได้ร่วมกับสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส) ในการดำเนินโครงการ “การสร้างเสริมสุขภาพผ่านกระบวนการคุณภาพเพื่อการเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืน” ( Sustainable Healthcare & Health Promotion by Appreciation & Accreditation : SHA ) เพื่อ ให้การผสมผสานระบบงานมาตรฐานวิชาชีพ การใช้มิติจิตใจและปรัชญาแนวคิดความพอเพียง สู่การทำงานในโรงพยาบาลหรือสถานพยาบาลอย่างเป็นระบบ มีระบบการนำที่ชัดเจน มีทีมที่รับผิดชอบและมีผลลัพธ์ที่บ่งบอกถึงความสำเร็จ
SHA มีองค์ประกอบที่สำคัญ คือ มีความปลอดภัย (Safety) มีมาตรฐาน (Standard) มีระบบการดูแลผู้ป่วยที่กลั่นมาจากใจ (Spirituality) มี ความประณีต มีคุณค่า เข้าใจในความต้องการของผู้ป่วยอย่างลึกซึ้ง เคารพในศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ รวมทั้งความเชื่อ วัฒนธรรม และภูมิปัญญาเดิม สามารถค้นพบความสุขจากภายในตนเอง และเผื่อแผ่ให้คนรอบข้างและผู้ป่วย สร้างความสุขได้ในทุกขณะของชีวิต โดยไม่ลืมที่จะนำเอา Sufficiency Economy แนวคิดปรัชญาพอเพียง ที่มีความหมายลึกซึ้ง มีความงดงาม สามมารถใช้ได้กับทุกคน ทุกอาชีพ ทุกหน่วยงาน รวมทั้ง SHA ด้วย กระบวนการสร้าง ให้เกิด SHA สามารถทำได้โดย การสร้างแกนนำ, การทำงานกับชุมชนและคน, การใช้มุมมองในเชิงบวก (Appreciative inquiry),การใช้เรื่องเล่า (Narrative Medicine), การสร้างเครือข่ายการเรียนรู้, การใช้แนวคิดการบริการด้วยหัวใจความเป้นมนุษย์ (Humanized Healthcare), การสร้างสุขภาวะ(Salutogenesis), สิ่งแวดล้อมเพื่อการเยียวยา (Healing Environment), และระบบบริการคุณภาพที่ต้องการตวามสมดุล ดังนั้นการ SHA จึง เป็นการสร้างดุลยภาพและการบูรณาการ การทำงานบนพื้นฐานการทำความดีไว้ในเรื่องเดียวกัน ให้คนมีโอกาสคิดดี ทำดี และพูดในสิ่งที่ดี ด้วยตัวเราเอง เชื่อว่าความดีนั้นจะทำให้คนเกิดความสุข มีความปิติในงาน |
|
ความรู้ที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้กับการปฏิบัติงาน | |
ใช้ประยุกต์ใช้ในการสอน และนิเทศนักศึกษา รวมทั้งการใช้กระบวนการจิตปัญญาศึกษาที่จะนำลงสู่ โครงการ ภายใต้รั้วครอบครัวเดียวกัน
|
|
ความรู้ที่จะนำไปพัฒนาต่อ ? | |
ด้านกระบวนการคิดและจริยธรรม
|
(330)