อบรมภาษาอังกฤษ ณ สถาบันสอนภาษาอังกฤษและแนะแนวการศึกษาต่อต่างประเทศ Knowledge Plus

อบรมภาษาอังกฤษ ณ สถาบันสอนภาษาอังกฤษและแนะแนวการศึกษาต่อต่างประเทศ Knowledge Plus
ผู้บันทึก :  นางสาวอุทุมพร ดุลยเกษม และ นางพิมพวรรณ เรืองพุทธ
  กลุ่มงาน :  กลุ่มวิชาการศึกษาทั่วไป
  ฝ่าย :  ฝ่ายวิชาการ
  ประเภทการปฎิบัติงาน :  อบรม
  เมื่อวันที่ : 28 ก.พ. 2554   ถึงวันที่  : 8 เม.ย. 2554
  หน่วยงาน/สถาบันที่จัด : 
  จังหวัด :  กรุงเทพมหานคร
  เรื่อง/หลักสูตร :  อบรมภาษาอังกฤษ ณ สถาบันสอนภาษาอังกฤษและแนะแนวการศึกษาต่อต่างประเทศ Knowledge Plus
  วันที่บันทึก  21 เม.ย. 2554


 รายละเอียด
การอบรมครั้งนี้เป็นหลักสูตรเสริมความเข้มแข็งด้านทักษะภาษาอังกฤษ ทั้ง ๔ ทักษะ คือ ทักษะ ด้านการอ่าน   การฟัง   การพูด   และการเขียน  รวมถึงGrammar และ Structure

                                  ลักษณะการสอน  เน้นการเตรียมตัวสอบ Toefl และ Ielts  เพื่อนำคะแนนไปขอทุนศึกษาต่อดังนี้    ๑.  เทคนิกการทำข้อสอบ Reading  จะเน้นวิธีการอ่านแบบจับประเด็น (หัวข้อ หรือ Head line)  การจับประเด็นการสรุป (Conclusion)  การอ่านแบบใช้เทคนิกการสังเกต Grammar หรือโครงสร้างของประโยค นอกจากนี้จะสอนเน้นเทคนิกการทำข้อสอบให้ทันเวลาเนื่องจากส่วนใหญ่ผู้เข้าสอบจะทำข้อสอบไม่ทัน  โดยการให้อ่านคำถามก่อนแล้วค่อยไปดูเนื้อหาว่าอยู่ตรงไหนใน Text  และแนะนำให้ทำข้อสอบ Part สุดท้าย ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นคำถามเกี่ยวกับบทสรุปของ Text อันจะช่วยผู้เข้าสอบพอจะเดาได้ว่าเนื้อหาเรื่องนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับอะไร

                ๒. เทคนิกการทำข้อสอบ Listening อาจารย์จะเน้นให้ฝึกการฟังบ่อยๆ จากหลากหลายสำเนียงของเจ้าของภาษา เช่น สำเนียงแบบออสเตรเลีย   สำเนียงแบบอังกฤษ  หรือสำเนียงอเมริกัน  และให้พยายามจับประเด็นในเรื่องที่ฟัง

                ๓. เทคนิกการทำข้อสอบ Writing  โดยปกติการสอบ Writing จะมี ๒ แบบ คือ๑) การเขียนบรรยายกราฟ หรือสถิติ ซึ่งเป็นข้อมูลที่ให้มา  กับ๒) การเขียนเรียงความ ซึ่งโจทย์จะให้ประเด็นมาและให้ตอบว่าคิดเห็นอย่างไร เห็นด้วยหรือไม่พร้อมเหตุผล หรือยกตัวอย่างในกรณีที่จำเป็นเพื่อให้ได้จำนวนคำที่มากพอ (เนื่องจากจะมีการกำหนดจำนวนคำที่ต้องเขียนให้ได้ในข้อนั้นๆ เช่น  ๑๕๐ หรือ ๒๕๐ word  เป็น ต้น) เทคนิกหลักๆ คือก่อนเขียนต้องวางโครงการเขียนก่อน ซึ่งประกอบด้วย ย่อหน้าที่ ๑ ควรเขียนเป็นประเด็นกว้างๆ ของเรื่องนั้นๆ (เหมือนเป็นบทนำ) ย่อหน้าที่ ๒ เป็นรายละเอียดของเนื้อหาหรือเนื้อเรื่องทั้งหมด  และย่อหน้าสุดท้ายควรเป็นการสรุปประเด็นหรือข้อสังเกตหรือข้อคิดเห็น  ทั้งนี้การใช้คำไม่ควรใช้คำศัพท์ซ้ำๆ ควรเล่นคำให้หลากหลาย ซึ่งก็คือต้องรู้ศัพท์ค่อนข้างมาก (คำต่างแต่มีความหมายเหมือนกัน= synonym) จึงจะได้คะแนนสูง

                ๔. เทคนิกการทำข้อสอบ Speaking (มีสอบเฉพาะข้อสอบIelts)  จะต้องสอบแบบถามตอบเหมือนถูกสัมภาษณ์จากเจ้าของภาษาโดยตรง  ซึ่ง ไม่สามารถทราบประเด็นข้อคำถามล่วงหน้าได้ นอกจากต้องฝึกพูดบ่อยๆและให้หลากหลายสาขาวิชา (เพื่อเป็นการเตรียมตัวเรื่องศัพท์) สำหรับการสอบ Speaking จะมี ๓ Part ด้วยกัน คือ Part ๑) แนะนำข้อมูลเกี่ยวกับตัวเอง  ใช้เวลา ๓-๔ นาที  หลังจากนั้น Part ๒) ให้หยิบฉลากเพื่อเลือกหัวข้อที่จะพูด เมื่อได้หัวข้อแล้ว กรรมการจะให้เวลา ๑ นาที สำหรับ list ประเด็นเพื่อเตรียมพูด  หลังจากนั้นกรรมการให้เวลาในการพูด ๓-๕ นาที  แบบ non stop  Part ๓) กรรมการจะถามความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องใน Part ๒ ใช้เวลาอีก ๓-๕ นาที  


   ความรู้ที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้กับการปฏิบัติงาน
              ด้านการนำผลการพัฒนาไปประยุกต์ใช้กับงานวิเทศสัมพันธ์ การวิจัยและผลงานทางวิชาการ


  ความรู้ที่จะนำไปพัฒนาต่อ ?

(331)

Comments are closed.