นมแม่แห่งชาติ ครั้งที่ ๓

นมแม่แห่งชาติ ครั้งที่ ๓
ผู้บันทึก :  นางพนิดา รัตนพรหม
  กลุ่มงาน :  กลุ่มวิชาการพยาบาลสูติศาสตร์
  ฝ่าย :  ฝ่ายวิชาการ
  ประเภทการปฎิบัติงาน :  ประชุม
  เมื่อวันที่ : 22 มิ.ย. 2554   ถึงวันที่  : 24 มิ.ย. 2554
  หน่วยงาน/สถาบันที่จัด :  กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข
  จังหวัด :  กรุงเทพมหานคร
  เรื่อง/หลักสูตร :  นมแม่แห่งชาติ ครั้งที่ ๓
  วันที่บันทึก  18 ส.ค. 2554


 รายละเอียด
- แนวโน้มและการเปลี่ยนแปลงนโยบายที่เอื้อต่อการให้มารดาเลี้ยงบุตรด้วยนม มารดา โดยปัจจุบัน กรมอนามัยกำลังร้องขอให้ออกกฎหมายลาคลอด ๙๐ วัน ซึ่งรัฐมนตรียังไม่อนุมัติเนื่องจากต้องการศึกษาปัญหาผู้ประกอบการเลิกจ้าง ผู้หญิง หากออกกฎหมายนี้ ซึ่งถ้าเป็นไปได้ ผู้ประกอบการจะต้องจ่ายเงินเดือน ๔๕ วัน และประกันสังคม จ่าย ๔๕ วัน

- บรรยาย ประโยชน์ของนมแม่ ซึ่งพบประเด็นการศึกษาวิจัยที่ควรสนับสนุนจากการศึกษาในเรื่องนี้ ได้แก่ การศึกษาผลของนมแม่ต่อการลดภาวะความเจ็บป่วยในทารก และเด็ก, การศึกษาเปรียบเทียบความปลอดภัย และความสะดวกในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ กับนมผสม, การศึกษาความเข้าใจที่ไม่ถูกต้องในการให้บุตรดูดนมแม่ เช่น น้ำนมแม่ไม่เพียงพอจึงหยุด ความหยืดหยุ่นของช่วงเวลาให้บุตรดูดนม , ความกลังการเปลี่ยนแปลงด้านภาพลักษณ์ ของแม่ที่ต้องให้บุตรดูดนม , การศึกษาบทบาทสามีในการสนับสนุนให้มารดาเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียวนาม ๖ เดือน  และประโยชน์ด้านการสร้างสายใยรักระหว่างแม่ ลูก

- บรรยาย แนวทางการดำเนินงานในอนาคตเพื่อการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่  ที่เน้นความตั้งใจมุ่งมั่นของทีมสุขภาพที่ต้องดำเนินการอย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่อง  ความร่วมมือจากภาคีเครือข่ายทุกกลุ่มอาชีพ  การให้ความรู้แก่แม่ตั้งครรภ์ซึ่งควรมีการจำแนกให้ความรู้เป็นกลุ่มย่อยตามความรู้ความเข้าใจที่แตกต่างกัน   การดำเนินการอย่างจริงจังกับกลุ่มตลาดนมทารก  การเรียกร้องกฎหมายลาคลอด ๖ เดือน โดยรัฐเป็นผู้ชดเชยรายได้  การดำเนินการอย่างมีคุณภาพ และต่อเนื่อง

- บันได ๑๐ ขั้นสู่ความสำเร็จของการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ คือ ๑. มีนโยบายนมแม่ที่ชัดเจน ๒.พัฒนาบุคลากร ๓. ชี้แจงประโยชน์และวิธีการให้นมแม่ ๔. ช่วยแม่ให้ลูกด้วยนมโดยเร็ว  ๕. แสดงให้แม่เห็นว่านมแม่มีเพียงพอแม้เวลาลูกไม่ได้ดูด ๖. อย่าให้น้ำหรืออาหารอื่นแก่ทารกแรกคลอดนอกจากนมแม่ ๗.แม่และลูกต้องอยู่ในห้องเดียวกันตลอด ๒๔ ชั่วโมง ๘.สนับสนุนให้ลูกได้ดูดนมแม่ทุกครั้งที่ต้องการ  ๙.อย่าให้ลูกดูดหัวนมยางหรือหัวนมปลอม ๑๐.ส่งเสริมหมีการจัดตั้งกลุ่มสนับสนุนการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่

- Mother – friendly care การดูแลแม่อย่างเป็นมิตร โดยส่งเสริมให้มีความอบอุ่นใจ มีความสุข เริ่มได้ตั้งแต่การให้แม่มีเพื่อนตามที่ต้องการในระยะคลอด  ให้ดื่มน้ำ และกินอาหารอ่อนระหว่างรอคลอด  สนับสนุนการลดปวดโดยไม่ใช้ยา สนับสนุนให้เดินเคลื่อนไหวขณะรอคลอด และเลือกท่าคลอด  ไม่ใช้มาตรการเชิงรุกในการช่วยคลอด เช่นการเจาะถุงน้ำ  การตัดฝีเย็บ  การให้ยาบีบรัดมดลูก  และการใช้หัตถการช่วยคลอด

- กลุ่มอาการแพ้นมในทารก  กรณีมีสาเหตุจากการกระตุ้น (cell mediated) จะพบอาการตั้งแต่ ๑ – ๓ ชั่วโมง ไม่เกิน ๓ วัน หลังได้รับโปรตีนหรือโปรตีนในนมวัว สำหรับการรับสารโปรตีนกระตุ้น T –cell lymphocyte สามารถผ่านสู่ลูกได้ทางรก หรือทารกดื่มนมวัวหลังคลอด  ซึ่งจะพบอาการของระบบทางเดินทางเดินอาหาร เช่น ถ่ายอุจจาระเหลว และมีมูกเลือดเป็นเส้นยาวๆ ปน  มี ผื่นขึ้นตามผิวหนัง ผิวลอก มีตุ่ม (ตุ่มน้ำเหลืองขึ้นในเยื่อบุทางเดินอาหาร) อาจมีอาการของระบบทางเดินหายใจ หรืออาการแพ้อย่างรุนแรงทั้งตัว  ดังนั้นการดูแลด้วยนมพิเศษที่ได้มีโปรตีนสัตว์ และไม่ควรใช้นมถั่วเหลืองแทน  กรณีให้ลูกดูดนมแม่ แม่ควรงดดื่มนมวัว นานมากกว่า ๒ สัปดาห์ และรับประทานแคลเซียมเสริม หากอาการดีขึ้นจึงให้แม่รับประทานนมวัวได้  แต่หากอาการไม่ดีขึ้นต้องหาสาเหตุอื่นๆ เช่นการแพ้ไข่ไก่ หรืออื่นๆ ที่แม่รับประทานในช่วงนั้น

- New concept in breast anatomy and sucking  

- จากการศึกษาในปัจจุบันเกี่ยวกับกายวิภาคของเต้านมโดยการใช้เครื่องอัลตร้าซาวน์ พบท่อน้ำนมซึ่งเป็นท่อหลัก ๔ – ๑๘  ducts  และไม่พบว่ามี Lactiferous sinus ซึ่ง เดิมเชื่อว่าเป็นส่วนที่ทำหน้าที่ในการผลิตน้ำนม โดยท่อน้ำนมทำหน้าที่เป็นทางผ่านเท่านั้น แต่ส่วนที่ทำหน้าที่ผลิตน่าจะมาจากเซลล์ที่เรียกว่า Milk production รวม ทั้งมีข้อสรุปที่ว่าปริมาณน้ำนมจากแม่ไม่ได้ขึ้นอยู่กับจำนวน และขนาดของท่อน้ำนมหรือไขมันของแม่ แต่ขึ้นอยู่กับความต้องการของทารกเป็นสำคัญ    

- การศึกษาเกี่ยวกับการดูดของทารก มีข้อสรุปว่า ลิ้นของทารกไม่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงรูปร่างของหัวนม ด้วยเหตุผลที่ว่าจังหวะการไหลของน้ำนมนั้นเกิดขึ้นขณะลิ้นทารกเคลื่อนที่ลง  และมีสมมติฐานว่ากลไกหลักของการดูดน่าจะเกิดจากภาวะสูญญากาศ (vacuum)

- ผลของการหลั่งน้ำนมต่อสมอง และพฤติกรรมของมารดา พบว่า มารดาจะมีฮอร์โมน Oxytocin เพิ่มสูงขึ้นในขณะให้นมบุตร  จึงถือว่าฮอร์โมนนี้ความสำคัญต่อการพัฒนาสัญชาติญาณของการเป็นแม่  นอกจากนี้พบว่ามีการไหลเวียนในสมองเพิ่มมากขึ้น มีผลต่อการลดภาวะซึมเศร้าของมารดาหลังคลอด  และมีผลการระบบไหลเวียนทั่วร่างกาย โดยลดผลการกระตุ้นระบบประสาท sympathetic อัตราการเต้นหัวใจลดลง และความดันอยู่ในระดับปกติ

- โครงการวิจัยการศึกษาติดตามทารกตั้งแต่แรกเกิดถึงอายุ ๒ ปี : ปัจจัย และผลลัพธ์ด้านสุขภาพของการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียวนาน ๖ เดือน ผลการศึกษาพบว่า กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ ให้ทารกได้รับน้ำ เมื่ออายุประมาณ ๑ เดือน  และให้อาหารอื่นๆ ร่วมกับนมแม่ ประมาณ ๔ – ๖ เดือน  โดยพบกลุ่มที่สามารถให้ลูกกินนมแม่อย่างเดียวนาน ๖ เดือนนั้น ประมาณ ๔๖.๗๖ %    ซึ่งปัจจัยที่มีผลได้แก่ ปัจจัยด้านอายุของสามี  รายได้ และแรงสนับสนุนทางสังคม ทั้งนี้ยังไม่พบการศึกษาด้านวัฒนธรรมและความเชื่อต่อการเลี้ยงบุตรด้วยนมแม่อย่างเดียวนาน ๖ เดือน

 


   ความรู้ที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้กับการปฏิบัติงาน
  - การให้ความรู้แก่นักศึกษาพยาบาลในขณะฝึกปฏิบัติการพยาบาล

- การให้บริการวิชาการแม่มารดาในชุมชนนาเคียน เพื่อสนับสนุนการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียวนาน ๖ เดือน


  ความรู้ที่จะนำไปพัฒนาต่อ ?
- พัฒนามุมมองทางวิชาการและการวิจัยด้านมารดาหลังคลอด

(307)

Comments are closed.