ขั้นตอนการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนโดยใช้สถานการณ์จำลองเสมือนจริง (Simulation delivery )

ขั้นตอนการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนโดยใช้สถานการณ์จำลองเสมือนจริง (Simulation delivery )

ขั้นตอนการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนโดยใช้สถานการณ์จำลองเสมือนจริง (Simulation delivery )
การจัดกิจกรรมการเรียนการสอนสถานการณ์จำลองเสมือนจริงประกอบด้วย ๓ กิจกรรม ดังนี้
๑.  ขั้นนำ (Pre – Brief)  ๒๐ นาที ถามถึงความคาดหวัง บทบาท สิ่งแวดล้อม เครื่องมือ ครูเล่าประสบการณ์ตนเอง
๒.  ขั้นการปฏิบัติตามสถานการณ์ (Simulationหรือ Scenario/Observation) ๓๐ นาที  การปฏิบัติตามที่มีในสถานการณ์
๓.  ขั้นประเมินการเรียนรู้  (Debrief)  ๒๐ นาที การประเมินการเรียนรู้ของนักศึกษาทั้ง ๓ ระยะ (๖ PA) ปัจจัยของบุคคล

มีรายละเอียดดังนี้

เรียนรู้ทำไม จำเป็นอย่างไร

Preparation เตรียมตัวอย่างไร

Role กฎ
Etiquette จรรยาบรรณ

Related to real ward experience
เล่าประสบการณ์

เคารพศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์

๑.ขั้นนำ (Pre – Brief)(๒๐ นาที)

เป็นขั้นตอนการเตรียมการ / แนะนำ  โดยผู้สอนจะบอกวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการเรียนการสอน การเตรียมตัวบอกบทบาทของผู้เรียน และผู้สอนการประเมินผล การให้คะแนนแล้วแบ่งกลุ่มและการเชื่อมโยงก่อนเข้าสู่บทเรียนโดยการเล่าหรือการแลกเปลี่ยนประสบการณ์จริง หรือครูมีวิดีโอแนะนำห้องปฏิบัติการ/หุ่น   เน้นย้ำให้ผู้เรียนเคารพกฎ จรรยาบรรณ และเคารพศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์

สิ่งสำคัญที่ผู้สอนต้องคำนึงถึงในขั้นตอนการทำ pre – brief ประกอบด้วย
๑. การวางแผน
๑.๑ ผู้สอนต้องศึกษาผู้เรียนว่าเป็นใครระดับการศึกษาที่มีอยู่(นักศึกษาพยาบาลชั้นปีไหน ผู้เข้าอบรมหลักสูตรเวชปฏิบัติฯ)  มีประสบการณ์การเรียนรู้อย่างไรเพื่อเลือกวิธีการจัดการเรียนการสอนโดย Simulationได้เหมาะสม
๑.๒ การจัดสิ่งแวดล้อมตามสถานการณ์ (Ward, ICU, ER)
๑.๓  เตรียมอุปกรณ์ เครื่องมือ ให้สอดคล้องตามสถานการณ์ (scenario)

๒. ขั้นดำเนินการ
๒.๑ บอกวัตถุประสงค์ที่ชัดเจนเช่น ในรายวิชาการพยาบาลบุคคลที่มีปัญหาสุขภาพ ๓ นักศึกษาสามารถประเมินอาการเปลี่ยนแปลงผู้ป่วยที่มีความผิดปกติตามสถานการณ์ที่กำหนดได้
๒.๒ ต้องสอบถามความคาดหวังของนักศึกษาที่ต้องการจากการเรียนการสอน
๒.๓ ผู้เรียนต้องตระหนักการช่วยเหลือผู้ป่วยตามบทบาทของพยาบาลวิชาชีพ
๒.๔ เน้นย้ำการเคารพหุ่นให้ถือว่าเป็นผู้ป่วยจริง เคารพครูผู้สอน และเพื่อนร่วมทีม เปิดใจรับฟัง มีความซื่อสัตย์ ยอมรับข้อบกพร่องของตนเอง
๒.๕ แนะนำการใช้หุ่นและอุปกรณ์ต่างๆ

๒.ขั้นการปฏิบัติตามสถานการณ์(Simulation หรือ Scenario /Observation)(๒๐ นาที)

โดยผู้เรียนลงมือปฏิบัติการในภารกิจที่กำหนดในสถานการณ์โดยมีผู้สอนคอยให้ข้อมูลพื้นฐานให้คำแนะนำและดูแลการเรียนรู้โดยการสังเกต บันทึกและให้คะแนนและเมื่อสิ้นสุดการเรียนรู้ต้องมีการสะท้อนกลับผลการเรียนรู้ที่เกิดขึ้นร่วมกันระหว่างผู้สอนกับผู้เรียน
สิ่งสำคัญที่ผู้สอนต้องคำนึงถึงในขั้นตอนการทำScenarioประกอบด้วย

๑.  บอกวิธีการปฏิบัติ โดยเน้นย้ำให้ผู้เรียนนำความรู้มาใช้ที่ได้เรียนมาใช้ในการดูแลผู้ป่วย ให้ระลึกเสมอว่าขณะที่ให้การช่วยเหลือผู้ป่วยผู้เรียน มีบทบาทของพยาบาลวิชาชีพเน้นย้ำการเคารพหุ่นซึ่งให้ถือว่าเป็นผู้ป่วยจริง เคารพผู้สอน และเพื่อนผู้ร่วมทีม เน้นย้ำการทำงานเป็นทีม และหน้าที่ที่ตนเองได้รับมอบหมาย

๒.  แนะนำการใช้หุ่นและอุปกรณ์ต่างๆ ในห้อง

๓. ให้ผู้เรียนตระหนักรู้ถึงอาการแสดงที่เปลี่ยนไปของผู้ป่วยในทางที่แย่ลง

๔.  ประเมินสภาพตามกรอบแนวคิดโดย ให้ผู้เรียนฝึกปฏิบัติในบทบาทพยาบาลวิชาชีพที่ดูแลผู้ป่วยและการประเมินเพื่อรวบรวมข้อมูลที่เป็นปัญหาของผู้ป่วยโดยยึดหลักการประเมินตาม ABCDE  ซึ่งปฏิบัติดังนี้

A = Airway  ซักประวัติถามอาการ ประเมินทางเดินหายใจสิ่งอุดกั้นทางเดินหายใจ

B = Breathing ดูลักษณะการหายใจ ฟังปอดและวัด O2saturation

C = Circulation วัดสัญญาณชีพ ประเมินcapillary refill ฟังเสียงหัวใจ ตรวจประเมินคลื่นไฟฟ้าหัวใจ

D = Disability  ประเมินNeurological signs (EVM), pain

E= Exposure  อุณหภูมิร่างกาย สภาพผิวหนัง สิ่งคัดหลั่ง สภาพแวดล้อมขณะเกิดเหตุ

๕.  การรายงานผลและส่งต่อ โดยใช้เครื่องมือ SBAR (SBAR Tool)

S = situation แนะนำชื่อพยาบาลที่รายงานแพทย์ ชื่อหอผู้ป่วย ชื่อผู้ป่วย

B = Background  อาการสำคัญที่มาโรงพยาบาล ประวัติการเจ็บป่วยปัจจุบัน โรคประจำตัว การผ่าตัด

A = Assessment  การประเมินที่พบ การพยาบาลและผลของการให้การพยาบาล

R = Recommendation ข้อเสนอแนะเพื่อแก้ปัญหาทางการพยาบาล

๖.    ขณะที่อยู่ในสถานการณ์ผู้สอนควรสังเกตผู้เรียน หากพบผู้เรียนปฏิบัติไม่ถูกต้องหรือไม่ปฏิบัติในเวลาที่กำหนด ผู้สอนจะหยุด และถามคำถาม ยกตัวอย่างเช่น ทำไมถึงเปลี่ยนการให้ Oxygen cannula เป็น Oxygenmark หากผู้เรียนไม่สามารถบอกได้ ผู้สอนต้องเสริมความรู้ให้กับผู้เรียน หรือให้ไปหาความรู้มาตอบ และที่สำคัญควรไม่ให้ผู้เรียนรู้สึกผิด และหากสถานการณ์นั้นมีการตามแพทย์แล้วแพทย์ไม่มา พยาบาลควรใช้คำถามที่ชี้นำหรือให้ข้อเสนอแนะในการแก้ปัญหา (Proactive)

๗.    สิ้นสุดการเรียนการสอนเมื่อผู้เรียนสามารถให้การช่วยเหลือผู้ป่วยให้อาการดีขึ้นได้ หรือกรณีที่ผู้เรียนต้องการคำแนะนำเพิ่มเติม

๘.    กลุ่มสังเกตการณ์ (observe)ให้สังเกตพฤติกรรมและจดบันทึก และมา de- brief ร่วมกัน

๓.   ขั้นประเมินการเรียนรู้  (Debrief) (๓๐ นาที)  ผู้เรียนได้ใช้เวลาที่จะบอกความรู้สึกเกี่ยวกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น สะท้อนคิดและตระหนักด้วยตนเองถึงวิธีการแก้ปัญหาการตัดสินใจที่เกิดขึ้น และวางแผนการพัฒนาตนเองในการที่จะนำสิ่งที่ได้เรียนรู้ไปปฏิบัติจริงตามบทบาทของพยาบาลและสามารถเชื่อมโยงการปฏิบัตินั้นไปหาเนื้อหาวิชาที่เรียน

ขั้นตอนการDebriefตามโมเดลของ Steinwachs(1992) แบ่งเป็น 3 ระยะ ดังนี้

          ระยะที่ ๑ Descriptive Phase (การบรรยาย) : เป็นการสอบถามความรู้สึกของผู้เรียนต่อสถานการณ์ และความรู้สึกของตนเอง ซึ่งในขั้นนี้อาจให้ผู้เรียนในกลุ่มสังเกตการณ์ร่วมสะท้อนความรู้สึก และพฤติกรรมของผู้เรียน

ระยะที่ ๒ Analysis Phase (การวิเคราะห์) : ผู้สอนจะสะท้อนผู้เรียนในสิ่งที่ผู้เรียนทำได้ดี และส่วนที่ผู้เรียนบกพร่องจะไม่ตำหนิ แต่จะเน้นการให้กำลังใจ การเสริมแรงบวกให้ผู้เรียนวิเคราะห์ตามหลัก ๖PA (Phase Appoach)

Immediate Phase การประเมินสถานการณ์ที่ได้รับ/โรคของผู้ป่วย
Planning  Phase การวางแผนว่า ใครควรทำอะไร ตามบทบาทหน้าที่ที่มอบหมาย
Assessment Phase การประเมินสภาพ และการระบุปัญหา
Action Phase การลงมือปฏิบัติการพยาบาล เช่น การให้เลือด ให้ยา ฯลฯ
Maintenance Phase ให้การพยาบาลผู้ป่วยอย่างต่อเนื่อง และแสดงบทบาทในทีม เช่น การให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำ    การให้ออกซิเจนถ้าผลการประเมินดีให้คงสภาพดังกล่าวไว้หรืออาจมีการปรับเปลี่ยนตามความเหมาะสม
Deterioration Phase การประเมินผลการให้การช่วยเหลือ รวมถึงการโทรรายงานแพทย์ ตาม SBAR

 

ระยะที่ ๓ Application Phase (การนำไปประยุกต์ใช้): การที่ผู้เรียนฝึกฝนจนเกิดความมั่นใจที่จะสามารถนำไปปฏิบัติได้ โดยตระหนักถึงคุณธรรม จริยธรรม จรรยาบรรณวิชาชีพ โดยการปฏิบัติกับหุ่นเสมือนเป็นผู้ป่วยจริง และร่วมทำงานเป็นทีม จนกระทั่งผู้เรียนสะท้อนความรู้สึกให้รับรู้ว่าจะนำไปใช้จริงอย่างไร

สรุปจากการประชุมการจัดทำหลักสูตรการอบรมSimulation Learningของสถาบันพระบรมราชชนก ๑๖-๑๗ มีนาคม  ๒๕๕๘

: นางวันดี   แก้วแสงอ่อน (1923)

Comments are closed.