ประชุมวิชาการ นักจัดการงานทั่วไป ประจำปี ๒๕๕๓

ประชุมวิชาการ นักจัดการงานทั่วไป ประจำปี ๒๕๕๓
 ผู้บันทึก :  นางปวันณัฐ……จันทร์ภักดี
  กลุ่มงาน :  งานบริหารทั่วไป
  ฝ่าย :  ฝ่ายบริหาร
  ประเภทการปฎิบัติงาน :  ประชุม
  เมื่อวันที่ : 18 พ.ค. 2553   ถึงวันที่  : 21 พ.ค. 2553
  หน่วยงาน/สถาบันที่จัด :  สมาคมบริหารงานทั่วไป กระทรวงสาธารณสุข
  จังหวัด :  ตรัง
  เรื่อง/หลักสูตร :  ประชุมวิชาการ นักจัดการงานทั่วไป ประจำปี ๒๕๕๓
  วันที่บันทึก  10 มิ.ย. 2553

 รายละเอียด
               ๑. เรื่อง รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. ๒๕๕๐ และ พระราชบัญญัติ.ข้อมูลข่าวสารของทางราชการ..พ.ศ.๒๕๔๐ ได้รับทราบถึง -สิทธิในการใช้ข้อมูลข่าวสารการร้องเรียน -ประโยชน์และคุณค่า ข้อมูลข่าวสารที่อยู่ในความครอบครองหรือควบคุมดูแลของหน่วยงานของรัฐ ๓ กลุ่ม ๑. เปิดเผยทั่วไป ๒. ไม่ต้องเผยแพร่ ๓. ข้อมูลข่าวสารส่วนบุคคล การดำเนินการทางวินัยไม่ร้ายแรง – องค์ประกอบของฐานความผิด การสืบสวน/สอบสวน การรับฟังพยานหลักฐาน การปรับฐานความผิด การเสนอโทษทางวินัย การรายงานสืบ/สอบสวน ๒. ที่มาของเรื่องร้องเรียน/กล่าวหา ๑.จากบุคคลที่ร้องเรียน/กล่าวหา ๑.๑ บัตรสนเท่ห์ ๑.๒ หนังสือร้องเรียน ๑.๓ สื่อสารมวลชน เช่น หนังสือพิมพ์ วิทยุ โทรทัศน์ ๒. จากหน่วยงานอื่น เช่น ๒.๑ สตง./ปปช./ปปท./สำนักงาน ก.พ. ๒.๒ สำนักนายกรัฐมนตรี ๒.๓ ผู้ตรวจการแผ่นดิน ๒.๔ ศูนย์รับเรื่องร้องเรียน/หน่วยงานต้นสังกัด ๒.๕ ตู้รับเรื่องร้องเรียน/โทรศัพท์สายตรง ๓. การดำเนินการเกี่ยวกับความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ สาระสำคัญของ พ.ร.บ.ความรับผิดทางละเมินของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. ๒๕๓๙ ๑) เมื่อเกิดความเสียหายแก่หน่วยงานของรัฐ ๒)ความเสียหายเกิดจากการกระทำละเมิดของ เจ้าหน้าที่ในระหว่างปฏิบัติหน้าที่ราชการ ๓)กรณีเจ้าหน้าที่กระทำละเมิดต่อหน่วยงานของรัฐทำให้ทรัพย์ของรัฐเสียหาย ๔)กรณีเจ้าหน้าที่กระทำละเมิดต่อบุคคลภายนอก ๕)ความรับผิดของผู้กระทำละเมิด ๖)ถ้ามีผู้กระทำผิดหลายคนไม่ใช้หลักลูกหนี้ร่วม ๗)ผู้ที่ต้องรับผิดชอบ ขอผ่อนชำระได้ ๘)ถ้าผู้กระทำผิดไม่สามารถชำระหนี้ได้ ให้หน่วยงานผ่อนผันตามความเหมาะสม ๙)กรณีเจ้าหน้าที่ผู้ต้องรับผิดชอบตาย ให้หน่วยงานฟ้องผู้จัดการมรดก ๑๐) กรณีการละเมิดมิได้เกิดจากการปฏิบัติหน้าที่ให้ใช้กฎหมายแพ่งบังคับ ๔. การจัดการความขัดแย้งแบบบูรณาการ คือ คู่กรณีร่วมกันแก้ปัญหาและหาทางออกจนได้ความต้องการแท้จริงที่พึงพอใจ ไม่มีฝ่ายใดที่ได้ฝ่ายเดียวหรือเสียแต่เพียงฝ่ายเดียว ความขัดแย้ง คือ คนตั้งแต่สองคนขึ้นไป หรือกลุ่มคนตั้งแต่สองกลุ่มขึ้นไปที่เป้าหมายเข้ากันไม่ได้ การหลีกเลี่ยงความขัดแย้ง มี ๘ วิธี ๑)แบบก้าวร้าว ๒)แบบตั้งรับ ๓)แบบก้าวร้าวเชิงตั้งรับ ๔)แบบหมดหวัง ๕)แบบใช้ตัวแทน ๑. แบบไม่ยอมรับ ๒. แบบยอมจำนน ๓. แบบแก้ปัญหาล่วงหน้า ๕) ระดับความรุนแรงความขัดแย้ง ความเห็นต่าง ยังไม่ถือว่าขัดแย้ง ความขัดแย้ง แบ่ง ๓ ระดับ ระดับแอบแฝง ระดับเริ่มปรากฏ ระดับปรากฏชัดเจน ข้อพิพาท กลายเป็นกรณีฟ้องร้องเมื่อฝ่ายหนึ่งไปเรียกร้องความเสียหาย ความขัดแย้งไม่ใช่ความรุนแรงแต่เปลี่ยนเป็นความรุนแรงได้ “ถ้าจัดการไม่ถูกต้อง” หัวใจความสำคัญของการจัดการความขัดแย้ง คือ ต้องระลึกไว้เสมอว่าการจัดการความ ขัดแย้งเป็นสาขาวิชาหนึ่งที่มีขอบเขตเกินกว่าเรื่องการการเจรจาต่อรองและการ ไกล่เกลี่ยอันได้แก่ความสามารถในการสื่อสาร ๕.๑ แนวทางในการไกล่เกลี่ยประนีประนอม – การสื่อสาร ควรให้ความสำคัญกับ การฟ้อง มากกว่า การพูด – ความสัมพันธ์ เป็นตัวกำหนดความสำเร็จ – ผลประโยชน์ / จุดยืน และความต้องการที่แท้จริง – ทางเลือก หรือ ทางออก วิธีการจัดการความขัดแย้งและผู้ตัดสินใจ – ความชอบธรรม คือ หลักความยุติธรรม และหลักการยอมรับ – ข้อผูกพันหรือข้อตกลง คือการไกล่เกลี่ยเมื่อได้ข้อตกลงแล้วควรสร้างข้อผูกมัดไว้ต่อกัน โดยแนะนำให้คู่กรณีทำสัญญาข้อตกลง หรือสัญญาประนีประนอมกันไว้


   ความรู้ที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้กับการปฏิบัติงาน
              การดำเนินการ เรื่องข้อมูลข่าวสารของทางราชการ ความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ ธรรมชาติของความขัดแย้ง แนวทางในการไกล่เกลี่ยประนีประนอม


  ความรู้ที่จะนำไปพัฒนาต่อ ?
              เรื่องข้อมูลข่าวสารของทางราชการ

(323)

Comments are closed.