สร้างคน- สร้างสันติ สำหรับบุคลากรที่ปฏิบัติงานท่ามกลางความขัดแย้ง

สร้างคน- สร้างสันติ สำหรับบุคลากรที่ปฏิบัติงานท่ามกลางความขัดแย้ง
 ผู้บันทึก :  นายสิงห์ กาญจนอารี, นายอาทิตย์ ภูมิสวัสดิ์, นางรัถยานภิศ พละศึก,
  กลุ่มงาน :  กลุ่มวิชาการศึกษาทั่วไป
  ฝ่าย :  ฝ่ายวิชาการ
  ประเภทการปฎิบัติงาน :  อบรม
  เมื่อวันที่ : 2 ส.ค. 2554   ถึงวันที่  : 5 ส.ค. 2554
  หน่วยงาน/สถาบันที่จัด :  สถาบันพระบรมราชชนก
  จังหวัด :  สงขลา
  เรื่อง/หลักสูตร :  สร้างคน- สร้างสันติ สำหรับบุคลากรที่ปฏิบัติงานท่ามกลางความขัดแย้ง
  วันที่บันทึก  24 ส.ค. 2554


 รายละเอียด
ความเชื่อในเรื่องการบำบัดรักษา ตามรูปแบบของ แสทเทียร์ ( Satir Therapeutic Beliefs )

๑.การเปลี่ยนแปลงเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ ถึงแม้ว่ายังไม่เห็นการเปลี่ยนแปลงภายนอก แต่อาจมีการเปลี่ยนแปลงภายในเกิดขึ้นแล้ว

๒.พ่อแม่ย่อมทำอย่างดีที่สุดแล้วในเวลานั้น

๓.เราทุกคนล้วนมีทรัพยากรพร้อมอยู่แล้วภายในตัวเอง ที่จะนำมาใช้จัดการให้เราได้

พัฒนาและประสบความสำเร็จ

    ๔.เรามีตัวเลือกเสมอ โดยเฉพาะที่จะนำมาต่อกรกับความบีบคั้นต่างๆ แต่ไม่ใช่นำทางเลือกมาใช้ตอบโต้กับสถานการณ์ที่เป็นประเด็นปัญหานั้น

    ๕.การบำบัดรักษาจำเป็นต้องเน้นไปที่สุขภาพและความเป็นไปได้ มากกว่าจะเน้นที่พยาธิสภาพ

    ๖.การมีความหวัง เป็นองค์ประกอบสำคัญในการทำให้คนเปลี่ยนแปลงตัวเอง

    ๗.มนุษย์จะเชื่อมสัมพันธ์กันโดยใช้ความเหมือนกัน เป็นพื้นฐานในการเชื่อม และมนุษย์พัฒนางอกงามขึ้นโดยใช้ความแตกต่างกันเป็นฐาน

    ๘.เป้าหมายหลักของการบำบัดรักษา คือ การทำให้บุคคลสามารถเป็นผู้เลือกกำหนดด้วยตัวเองได้

    ๙.ความเป็นเราที่ฉายปรากฏขึ้นมาเด่นชัดนี้ เกิดจากพลังชีวิต จิตวิญญาณแบบเดียวกันหมด พวกเราทุกคนคือผลพวงของพลังชีวิตแบบเดียวกัน

    ๑๐.คนส่วนมากมักเลือกทางที่ตนคุ้นเคยมากกว่าทางที่เหมาะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อยามที่มีภาวะกดดัน บีบคั้นมากๆ

    ๑๑.ตัวของปัญหานั้นที่จริงไม่ใช่ปัญหา แต่วิธีการจัดการกับปัญหาต่างหากที่เป็นปัญหา

    ๑๒.อารมณ์ความรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของเรา ทุกคนล้วนมีสิ่งนี้

    ๑๓.คนเราล้วนมีพื้นฐานที่เป็นคนดีด้วยกันทั้งนั้น เราจำเป็นต้องค้นหาขุมทรัพย์ล้ำค่า

ภายในตัวเรา เพื่อจะได้ยืนยันให้มั่นใจในความมีคุณค่าของตัวเรา และเราจำเป็นต้องค้นหาขุมทรัพย์ล้ำค่าภายในอันนั้นของเราได้

    ๑๔.บิดา มารดามักทำอุปนิสัยที่เขาคุ้นเคย ทำซ้ำๆ ตามที่เขาเคยเรียนรู้มาตั้งแต่เด็กจนเติบใหญ่ ถึงแม้ว่าสิ่งที่เขาจะทำเป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสม

    ๑๕.เราไม่อาจเปลี่ยนแปลงสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วในอดีต แต่เราอาจเปลี่ยนผลกระทบที่เกิดขึ้นกับเราได้

    ๑๖.การสำนึกในบุญคุณและการยอมรับสิ่งต่างๆในอดีต จะเพิ่มศักยภาพในการบริหาร

จัดการปัจจุบันกาลของเรา

    ๑๗.เป้า หมายหนึ่งในการยกระดับความเป็นตัวเราทั้งมวลรวมเต็มตัวได้ ก็คือการยอมรับบิดามารดาในฐานะที่ท่านเป็นมนุษย์ที่มีชีวิตจิตใจ แล้วให้เราเข้าถึงความต้องการท่านในฐานะที่ท่านเป็นบุคคลที่มีคุณค่ามากกว่า จะยอมท่านเพราะเพียงแค่ท่านมีบทบาทหน้าที่เป็นพ่อแม่เรา

    ๑๘.วิธีการจัดการกับชีวิตก็คือการฉายออกถึงผลของระดับความมีคุณค่าของตนเองที่อยู่

เบื้องใต้ผู้ที่รู้สึกว่าตนเองมีคุณค่าสูงเท่าไร ผู้นั้นก็จะยิ่งมีวิธีการปรับตัวบริหารชีวิตได้อย่างกลมกลืนเป็นมวลเดียวกัน

    ๑๙. สภาวะต่างๆของมนุษย์มีลักษณะเป็นสากล ดังนั้น จึงสามารถนำมาประยุกต์ใช้ใน

สถานการณ์ต่างๆในวัฒนธรรมต่างๆและสภาพแวดล้อมต่างๆได้

    ๒๐. สภาวการณ์ (process) คือ วีทางของการเปลี่ยนแปลงเรื่องราว ข้อเท็จจริง (content) แก่นสารของชีวิต คือตัวที่ก่อให้เกิดบริบท ที่ทำให้เกิดมีการเปลี่ยนแปลงขึ้นมา

    ๒๑. ความจริงใจ โปร่งใส สอดคล้องกับความรู้สึก (congruence) และการมีคุณค่าน่าภูมิใจ (self-esteem) ของตน เป็นแก่นสำคัญของงานเวอร์จิเนีย แสทเทียร์

    ๒๒. สัมพันธภาพที่เข้มแข็งของมนุษย์สร้างจากความเสมอภาคกัน

 

 


   ความรู้ที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้กับการปฏิบัติงาน
งานบริหาร งานบริการวิชาการ และงานวิชาการ


  ความรู้ที่จะนำไปพัฒนาต่อ ?
ด้านความเอื้ออาทร และเข้าถึงหัวใจความเป็นมนุษย์

(311)

Comments are closed.